ยืนยันจากผู้ใช้จริงมากกว่า 256, 996 ราย เห็นผลจริงตั้งแต่กระปุกแรก ลุงสมปอง น้ำตาคลอ!!
ปัจจัยอื่น ๆ อาจทำให้เกิดภาวะ thiamine ได้เช่นกัน ซึ่งอาจทำให้ร่างกายของคุณยากที่จะดูดซึมและเก็บทิเบนีย์โรคเหน็บชาทางพันธุกรรมซึ่งเป็นสภาพที่หายากซึ่งช่วยป้องกันร่างกายไม่ให้ดูดซึม thiamine hyperthyroidism (overactive thyroid gland) คลื่นไส้และอาเจียนในครรภ์ การผ่าตัดลดความอ้วน โรคเอดส์ ปัสสาวะเป็นเวลานานหรือใช้ยาขับปัสสาวะ (ยาที่ทำให้คุณปัสสาวะมากขึ้น) ระหว่างการฟอกไต มารดาที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่จำเป็นต้องมีวิตามินบีในแต่ละวันทารกที่ดื่มน้ำนมแม่หรือสูตรต่ำใน thiamine มีความเสี่ยงต่อการขาดวิตามินบี การวินิจฉัยโรค วินิจฉัยว่าเป็นโรคมะเร็งตับอย่างไร?
ถั่วและธัญพืช ที่อุดมไปด้วยวิตามินบี 1 เช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วเขียว งา ข้าวซ้อมมือ ข้าวกล้อง ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ จมูกข้าวสาลี และรำข้าว 2. ธัญพืชเต็มเมล็ดหรือโฮลเกรน (Whole Grains) 3. เนื้อวัว เนื้อปลา เนื้อหมูไม่ติดมัน ตับ ไต และไข่แดง 4. นมและผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม เช่น โยเกิร์ต 5. ผักบางชนิด เช่น หน่อไม้ฝรั่ง ฟักทอง กะหล่ำดาว ผักโขม เห็ด ส่วนผลไม้ เช่น แตงโม ส้ม เป็นต้น นอกจากนี้ยังควรจำกัดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดเหน็บชาให้น้อยลง เพราะแอลกอฮอล์มีผลต่อการดูดซึมวิตามินบี 1 ในร่างกาย ควรได้รับการตรวจภาวะขาดวิตามินบี 1 อย่างสม่ำเสมอ และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารทำลายวิตามินบี 1 เช่น ปลาร้า ใบชา ใบเมี่ยง หมากพลู ปลาส้มดิบ แหนมดิบ เป็นต้น เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ร่างกายของเราห่างไกลจาก โรคเหน็บชา ได้แล้ว
การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สาเหตุที่พบบ่อยของทารก ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่คือ การขาดวิตามินบี1 ในอาหารของมารดา อาหารสำหรับเด็กโต ขึ้นอยู่กับข้าวที่ผ่านการกลั่นมานานแล้ว และข้าวไม่ข้นตามเวลา หรือซุปข้าวจะถูกทิ้งเมื่อปรุงอาหาร แช่ผักไว้นานเกินไป และถั่วจะปรุงด้วยด่างหลายชนิด การบริโภคคาร์โบไฮเดรตจำนวนมากในระยะยาว เป็นอาหารหลักและการขาดเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง อาจทำให้อาหารไม่สมดุลทำให้ขาดวิตามินบี1 2. โรคเรื้อรัง เด็กที่มีอาการอาเจียน ท้องร่วงเรื้อรัง และพยาธิในลำไส้สามารถลดการดูดซึม ของไทอามีนในลำไส้เล็กส่วนต้น และลำไส้เล็กได้ โรคเรื้อรังต่างๆเช่น อาการเบื่ออาหาร สามารถลดการรับประทานไทอามีน เมื่อการทำงานของตับบกพร่องในร่างกาย 3. การเผาผลาญ การเผาผลาญอาหารที่มากเกินไป ภาวะไทรอยด์ทำงานเกินการติดเชื้อหรืออุณหภูมิสูง การออกกำลังกายหนัก สตรีมีครรภ์การให้นมบุตรและภาวะอื่นๆ สามารถเพิ่มความต้องการไทอามีนของร่างกายได้ อาการของเหน็บชา 1.
หลายคนคงเคยได้ยินโรคนี้มาก่อนนั่นคือ " โรคเหน็บชา " แต่อย่าเพิ่งเข้าใจว่ามันคือ อาการชาตามขาหรือเท้าเวลานั่งนานๆ เพราะโรคเหน็บชาที่จะพูดถึงนี้คือ โรคเหน็บชา (Beriberi) ที่มีสาเหตุมาจากการขาด วิตามิน บี1 หรือไธอามีน (Thiamine) ซึ่งร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์เองได้ ต้องได้รับจากการรับประทานอาหารหรืออาหารเสริมเท่านั้น วิตามินบี 1 เกี่ยวกับโรคเหน็บชาอย่างไร?
ติดสุราเรื้อรัง เนื่องจากแอลกอฮอล์มีฤทธิ์ลดการดูดซึมวิตามินบี 1 และเพิ่มการขับวิตามินบี 1 ออกจากร่างกาย ทำให้ร่างกายสะสมวิตามินบี 1 ไม่เพียงพอ 2. เหน็บชาจากกรรมพันธุ์ 3. ภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานเกิน (Hyperthyroidism) 4. การผ่าตัดเพื่อรักษาโรคอ้วน (Bariatric surgery) 5. โรคเอดส์ (AIDS) 6. ท้องเสียเป็นเวลานาน หรือการใช้ยาขับปัสสาวะ 7. ผู้ที่กำลังรับการรักษาด้วยการฟอกไต 8. ผู้ที่ชอบรับประทานอาหารที่มีสารทำลายวิตามินบี 1 เช่น ปลาร้า ใบชา ใบเมี่ยง หมากพลู ปลาส้มดิบ และแหนมดิบ เป็นต้น 9. ผู้ที่ป่วยเป็นโรคตับเรื้อรัง เช่น ตับแข็ง 10. คนวัยฉกรรจ์ที่ต้องออกแรงหรือทำงานหนักๆ เช่น กรรมกร ชาวนา นักกีฬา ผู้ต้องขัง และชาวประมงที่ออกทะเลเป็นเวลานานๆ 11. ทารกที่รับประทานนมมารดาเพียงอย่างเดียว โดยที่มารดามีภาวะขาดวิตามินบี 1 12. หญิงตั้งครรภ์และผู้ที่กำลังให้นมบุตร 13. ผู้ที่รับประทานอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลมาก แต่รับประทานอาหารที่มีวิตามินบี 1 น้อย อาการของโรคเหน็บชา โรคเหน็บชา แบบนี้จะมีความแตกต่างจากอาการเหน็บชาที่พบได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เพราะโรคเหน็บชานี้เกิดจากการขาดวิตามินบี 1 โดยอาการสามารถเกิดขึ้นได้หลายแบบขึ้นอยู่กับอายุและอวัยวะที่ได้รับผลกระทบ โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดคือ เหน็บชาในเด็ก (Infantile Beriberi) และเหน็บชาในผู้ใหญ่ (Adult Beriberi) 1.
เหน็บชาชนิดเปียก (Wet Beriberi) ผู้ป่วยจะมีอาการบวมร่วมกับอาการชาปลายมือปลายเท้า โดยมีอาการดังนี้ – ชาที่ปลายมือและปลายเท้า – มีอาการบวม น้ำคั่งในช่องท้องและช่องปอด – ขาส่วนล่างบวม – หอบเหนื่อย – หายใจตื้นขณะทำกิจกรรมต่าง ๆ – ตื่นนอนขึ้นมามีอาการหายใจตื้น – หัวใจโตและเต้นเร็ว อาจทำให้หัวใจวายในกรณีไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องและทันท่วงที 2.