ศ. 2502 - 2511) เพราะในสมัยพล. เปรมมีการเลือกตั้งถึง 3 ครั้งใน 8 ปี เฉลี่ยมีการเลือกตั้งทุกๆ 2 ปีกว่า ทำให้การเมืองมีเสถียรภาพต่อเนื่อง แม้จะไม่ "เต็มใบ" และส่งผลให้มีการเติบโตของพรรคและนักการเมืองทั้งระดับชาติและระดับท้องถิ่น อีกทั้งยังสามารถวางรากฐานเศรษฐกิจให้เข้มแข็งมั่นคง และ ท่านรู้จักขอบเขตความพอดีทางการเมือง ซึ่งเป็นหนึ่งในคุณลักษณะสำคัญที่เป็นสากลของ " รัฐบุรุษ " พล. เปรมสิ้นสุดการเป็นนายกฯ ในวันที่ 4 ส. 2531 และวันที่ 23 ส. ท่านได้รับโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งองคมนตรี และในวันที่ 29 ส. ปีเดียวกัน พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้ประกาศว่า "โดยที่นายกฯ นำความกราบบังคมทูลว่า พล. เปรม ได้เคยรับราชการสนองพระเดชพระคุณในตำแหน่งที่สำคัญฯ ทั้งด้านการทหารและการบริหารราชการแผ่นดินมาแล้วหลายตำแหน่ง ครั้งสุดท้ายดำรงตำแหน่งนายกฯ มาเป็นเวลานานถึง 8 ปี 5 เดือนเศษ ตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งต่างๆ เหล่านั้น พล. เปรม ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและด้วยความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จนเป็นที่ประจักษ์ในความปรีชาสามารถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติและความเป็นอยู่ของชาวชนบทให้มั่นคงอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติเป็นอเนกประการ จึงมี พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯยกย่อง พล.
1. "กลุ่มยังเติร์ก" 2. กลุ่ม "จปร. ๕" และ 3. กลุ่ม "ทหารประชาธิปไตย" โดยกลุ่ม " ยังเติร์ก " มีความเชื่อว่า ประเทศไทยต้องการผู้นำที่เข้มแข็งและมีประวัติใสสะอาด ในขณะที่กลุ่ม " จปร. 5" ให้ความสำคัญกับการรักษาสถานะของการเป็นชนชั้นปกครองของทหารในสังคมไทย ส่วน กลุ่ม " ทหารประชาธิปไตย " สนับสนุน การปฏิวัติที่เป็น "ประชาธิปไตย" ตามแนวทางประชาธิปไตยรวมศูนย์ของเลนินนิสต์ เมื่อเกิด เหตุการณ์ 6 ต. ค. 2519 มีการพยายามช่วงชิงอำนาจรัฐโดยกองทัพที่แตกเป็นหลายฝ่าย และผู้ที่สามารถประสานให้ทุกอย่างไม่ต้องแตกหักรุนแรงคือ พล. ท. เปรม ติณสูลานนท์ ผู้ที่ฝ่ายยังเติร์กให้ความนับถือ และทหารผู้ใหญ่ให้ความไว้วางใจ ต่อมาเกิดรัฐประหาร 20 ต. 2520 ผู้นำกองทัพที่ทำรัฐประหารคือ พล. อ. เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ 2521 มีเลือกตั้งในปี 2522 พรรคประชาธิปัตย์ต้องมีหัวหน้าพรรคใหม่ คือคุณถนัด คอมันตร์ เพราะหมดสภาพจากวิกฤตการเมือง 6 ตุลาฯ ที่เกิดขึ้นในขณะที่ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล แต่ประชาธิปัตย์ก็แพ้กราวรูดในกรุงเทพฯ เหลือแต่คุณถนัดคนเดียวได้เป็น ส. ส. ส่วนพรรคฝ่ายขวาก็อยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ไม่ต่างกัน พล.
2503 เข้าศึกษาการวิทยาลัยการทัพบก หลักสูตรพิเศษชุดที่ 2 (ยศพันเอก) พ. 2509 เข้าศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 9 (ยศพันเอก) 4 กรกฏาคม 2511 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้เป็นสมาชิกวุฒิสภา 1 ตุลาคม 2511 เป็นผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า 14 เมษายน 2512 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นองครักษ์เวร 18 กรกฏาคม 2512 มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้เป็นนายทหารพิเศษประจำกรมทหารม้าที่ 1 รักษาพระองค์ พ.