รู้จัก 5 ตำแหน่งหลักในกีฬา Basketball ตำแหน่งไหนเหมาะกับคุณ?
ผู้ตัดสินมีหน้าที่ตัดสินว่า ผู้เล่นคนใดทำฟาวล์ และลงโทษผู้เล่นให้หมดสิทธิ์ 11. ผู้ตัดสินสามารถที่จะตัดสินว่าลูกใดออกนอกสนาม และฝ่ายใดเป็นฝ่ายที่ได้ส่งลูกเข้าเล่น และทำหน้าที่รักษาเวลา บันทึกจำนวนลูกที่ทำได้ และทำหน้าที่ทั่วไปตามวิสัยของผู้ตัดสิน 12. การเล่นแบ่งออกเป็นสองครึ่ง ๆ ละ 15 นาที 13. ฝ่ายที่ทำประตูได้มากกว่าเป็นฝ่ายชนะ ในกรณีที่ได้คะแนนเท่ากัน ให้หัวหน้าชุดของทั้งฝ่ายตกลงกันเพื่อต่อเวลา และถ้าฝ่ายใดทำประตูได้ก่อนเป็นฝ่ายชนะ สหรัฐอเมริกายอมรับกีฬาบาสเกตบอลเป็นกีฬาประจำชาติ เมื่อวันที่ 20 มกราคม ค. 1892 (พ. 2435) และเนื่องจากว่ามีผู้นิยมการเล่นและการแข่งขันกันมากขึ้น จึงได้มีการแก้ไขกติกาบางอย่างเพื่อความเหมาะสม และเพื่อเพิ่มความสนใจมากขึ้น เช่นแต่เดิมใช้ลูกเมดิซินบอลหนัก 2 ½ ปอนด์ ซึ่งหนักเกินไปและประตูมักจะชำรุดอยู่เสมอ จึงเลิกใช้ในปี ค. 1894 (พ. 2437) และมีบริษัท เดอะ โอเวอร์แมน วีล คัมพานี (The overman wheel company) ได้ผลิตลูกบอลขึ้นมาใหม่สำหรับใช้เล่นและแข่งขันโดยเฉพาะ มีขนาดเส้นรอบวง 30 – 32 นิ้ว หนัก 18 – 24 อาวม์ ประตูที่ทำด้วยตะกร้ามักชำรุดได้ง่าย โดยเฉพาะขอบบนของตะกร้า ดังนั้นในปี ค.
ไม่ควรฝึกในสนามกลางแจ้ง แดดร้อนจัด หรือฝนตกฟ้าร้อง ๑๑. ไม่ใส่เครื่องประดับเช่น นาฬิกา แหวน สร้อยข้อมือ สร้อยคอหรือเข็มขัด เพราะจะเป็น อันตรายแก่ตนเอง และผู้อื่นได้ ๑๒. ไม่ควรใส่แว่นตาระหว่างการเล่น ถ้าจำเป็นควรใช้แว่นที่เป็นพลาสติก หรือชนิดที่ไม่ แตก และให้มียางรัดติดกับท้ายทอยด้วย ๑๓. ในกรณีที่จะมีการแข่งขัน ควรฝึกซ้อมให้ร่างกายมีสมรรถภาพดีพร้อมที่จะเข้า แข่งขันได้ ๑๔. ถ้าตนเองไม่ได้ฝึกซ้อม หรือฝึกซ้อมไม่เพียงพอไม่ควรลงแข่งขันโดยเด็ดขาด
1898 (พ. 2441) จึงได้นำห่วงเหล็กมาประกอบดติดเข้ากับขอบบนของตะกร้า จึงทำให้แข็งแรงขึ้น แต่ก็ยังสร้างความลำบากให้กับผู้เล่น และเสียเวลาให้กับผู้ดู ที่อยากดูเกมการเล่นที่ต่อเนื่องกัน เพราะเวลามีการทำประตูเกิดขึ้น ผู้เล่นจะต้องปีขึ้นไปเอาลูกบอลออกมาจากตะกร้าเพื่อที่จะมาเล่นใหม่ ดังนั้นในปี ค. 1908 (พ. 2451) จึงเป็นมาเป็นตะกร้าไม่มีก้น และต่อมาได้ดัดแปลงตัวตะกร้าเป็นตาข่ายติดกับห่วงเหล็กจนตราบเท่าทุกวันนี้ ในแง่ผู้เล่นได้มีการเปลี่ยนแปลงจำนวนเรื่อยมา แต่เดิมมีข้างละ 9 คน ต่อมาลดลงเหลือ 7 คน และเหลือ 5 คน ในปี ค. 1893 (พ. 2436) ส่วนเรื่องเครื่องแต่งกาย แต่เดิมใช้กางเกงขายาว เสื้อมีแขน ก็เปลี่ยนมาเป็นกางเกงขาสั้น เสื้อไม่มีแขน เพื่อให้สะดวกต่อการเคลื่อนไหวมากขึ้น ในปี ค. 1915 (พ. 2458) "สมาคมวายเอ็มซีเอ" ได้จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการขึ้นคณะหนึ่งที่มีชื่อว่า "The Joint Committee for Rules" ซึ่งประกอบด้วยคณะกรรมการของสมาคมวายเอ็มซีเอ และผู้แทนของโรงเรียนต่าง ๆ เพื่อทำความเข้าใจในเรื่องกติกาการเล่น เพื่อให้การเล่นเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน กติกานี้ได้ใช้มาจนกระทั่งใช้ในการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก ครั้งที่ 11 ณ กรุงเบอร์ลินประเทศเยอรมนี ในปี ค.